1การรีไฟแนนซ์รถยนต์กับธนาคารใหม่
ข้อดี
1.1 อาจจะได้ยอดจัดหรือดอกเบี้ยถูกกว่าธนาคารเดิม อันเนื่องมาจากการแข่งขันกันเองระหว่างธนาคาร
1.2 การยื่นกู้อาจจะง่ายขึ้น อาจจะเนื่องจากธนาคารใหม่ ไม่ใช้ผู้ค้ำประกัน หรือ มีเงื่อนไขดีกว่าธนาคารเดิม
ข้อเสีย
1.1 การย้ายธนาคารคุณต้องจ่ายค่าโอนกรรมสิทธิ์ใหม่ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
การรีไฟแนนซ์รถยนตฺ์กับธนาคารเดิม
ข้อดี
1.1 กรณีเรามีประวัติผ่อนชำระดี การรีไฟแนนซ์ที่เดิมอาจจะผ่านง่ายกว่าที่ใหม่
1.2 การรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม ไม่ต้องเสียค่าโอนย้ายกรรมสิทธิ์ นั่นคือทำให้เราประหยัดเงินไปบางส่วน
้ข้อเสีย
1.1 หากต้องการใช้ธนาคารเดิมบางครั้งอาจจะไม่ได้ยอดจัดที่สูงที่สุด และ ดอกเบี้ยที่ดีที่สุด
2กรณีมีเล่มทะเบียนแล้ว ควรจะทำแบบโอนเล่ม(รีไฟแนนซ์) หรือ ไม่โอนเล่้ม(จำนำทะเบียน) ดี
2.1 กรณีมีเล่มแล้ว การจำนำทะเบียน(ไม่โอนเล่ม) ก็ดีตรงที่ชื่อยังเป็นชื่อเรา แต่คุณก็ต้องนำเล่มไปให้ธนาคารเก็บไว้อยู่ดี
2.2 กรณีไม่โอนเล่ม อัตราดอกเบี้ยต่อปี จะสูงกว่า กรณีโอนเ่้ล่ม เนื่องจากธนาคารถือว่าการโอนเล่ม ทำให้ธนาคารมีหลักประกันเงินกู้ แตกต่างจากไมโอนเล่ม ธนาคารไม่มีหลักประกันเงินกู้ เป็นลักษณะของสินเชื่อส่วนบุคคลดังนั้นแบบไม่โอนเล่ม ถึงแม้โฆษณาจะบอกว่า ประมาณ 6% ต่อปี แต่เป็นการผ่อนชำระแบบลดต้นลดดอก(Affactive rate-แบบผ่อนบ้าน) แบบสินเชือส่วนบคคลดังนั้นอัตราดอกเบี้ยแ้ท้จริงจึงประมาณ 15-18% ต่อปี เมื่อรวมธรรมเนียมทุกอย่าง ต่างจากแบบคงที่ (fix rate-แบบผ่อนรถ) ที่เป็นดอกเบี้ยผ่อนรถทั่วไป ที่อยู่ประมาณ 4-5% ต่อปี
2.3 ข้อดีของการจำนำทะเบียน (แบบไม่โอนชื่อในเล่ม )คือหากเราต้องการปิดบัญชีก่อนกำหนด ธนาคารก็คิดให้เราเฉพาะเงินต้นเท่านั้น ไม่ต้องรวมดอกเบี้ยในปีที่เหลือ เหมือนกับการรีไฟแนนซ์แบบเปลี่ยนชื่อทั่วไป
2.4การจำนำทะเบียน ( ไม่โอนชื่อในเล่ม ) ไม่มีภาะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แบบเปลี่ยนชื่อต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% รวมไปกับยอดผ่อนชำระในรายเดือน

3 จะรีไฟแนนซ์รถด้วยตนเองหรือทำผ่านดีลเลอร์
3.1 กรณีที่ท่านยังมีภาระผ่อนชำระกับธนาคารนั้น การรีไฟแนนซ์รถยนต์ คันเดิม ท่านต้องนำเงินสดส่วนตัวไปปิดบัญชี กับธนาคารก่อนไม่ว่าจะรีไฟแนนซฺ์ที่เดิมหรือที่ใหม่ เนื่องจากธนาคารจะไม่รับปิดบัญชีให้ลูกค้าๆ จะต้องปิดบัญชีด้วยตนเอง ก่อนจะยื่นเอกสารกับธนาคารเพื่อรีไฟแนนซ์ได้ ดังนั้นหากท่านไม่สะดวกที่จะนำเงินสดไปปิดบัญชีได้ก่อน ท่านก็สามารถรีไฟแนนซ์รถยนต์ผ่านทางดีลเลอร์ของธนาคาร ดีเลอร์จะให้ท่านยื่นเอกสาร จัดสินเชื่อให้ผ่านก่อน เมื่อผ่านแล้วดีลเลอร์ฺก็จะไปปิดบัญชีที่ธนาคารเิดิมให้ท่านและนำเล่มทะเบียนรถไปให้ธนาคารใหม่ในภายหลัง โดยดีลเลอร์ ก็คิดค่าธรรมเี่นียมการจัดไฟแนนซ์และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าปิดบัญชีกับท่าน
3.2 กรณีที่ท่านมีเล่มทะเบียนแล้ว ท่านสามารถยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์ได้ด้วยตนเอง หากแต่่ท่าน ก็ต้องเสาะหา้ข้อมูลด้วยตนเอง ว่าธนาคารใดจะให้เงื่อนไขเรื่องดอกเบี้ย และ ยอดจัด อย่างไร รวมทั้ง ที่ใด จะยื่นเรื่องแล้วผ่านง่ายที่ใดจะผ่านยาก หากเห็นว่ายุ่งยากท่านสามารถให้ดีลเลอร์จัดการแทนท่านได้
รถยนต์ที่รีไฟแนนซ์ได้ ปีไหนถึงปีไหน
ลิสซิ่งส่วนใหญ่รับรถได้ประมาณ ถึง 16 ปี ครับ (กรณีปีนี้ 2014 รถ ปี 1998 ก็ยังรับรีไฟแนนซ์ครับผม )
รถยนต์ที่รีไฟแนนซ์ไม่ได้ หรือ ได้แต่ได้ยอดน้อยมาก
รถที่อายุเกิน 16 ปี ลิสซิ่งไม่รับรีไฟแนนซ์
รถที่ไม่ใช่รถตลาดจะรีไฟแนนซ็ราคาประมาณ 70% ของราคากลาง
รถไม่รับเช่น แท็กซี่ที่ไม่ใช่เขียวเหลือง , บรรทุกบางประเภท (ต้องใช้บริษัทลิสซิ่งเฉพาะทาง )
รถที่เปลี่ยนเครื่องคนละกระกูลกัน เชน รถโตโยต้า ไปใส่เครื่อง คนละรุ่น หรือ รถฮอนด้าไปใส่เครื่องโตต้า
รถตลาด และ รถที่ไม่ใช่รถตลาดคือรถอะไรบ้าง
รถตลาด (Market Brand ) คือรถที่เป็นที่นิยม เช่น โตโยต้า ฮอนด้า อิซูซุ เบ็นซ์ บีเอ็ม นิสสัน มิตซูบิชิ กรณีรีไฟแนน์ยอดจัดจะสูงประมาณ 90-100% ของราคากลาง และผ่อนชำระได้นานถึง 72 งวด
รถที่ไม่ใช้รถตลาด (Non Market Brand ) คือรถที่ไม่ใช่รถในกลุ่มแรก หากแต่ บางรุ่น บางยี่ห้อ จึงจะจัดได้ 90% รถ Non Market Brand บางรุ่น จัดได้เพียง 70% บางรุ่น จัดไมไ่ด้เลย แม้ว่าจะเป็นรถใหม่ก็ตาม

วัตถุประสงค์ของการรีไฟแนนซ์รถยนต์
วัตถุประสงค์ของผู้จะรีไฟแนนซ์ที่พบโดยมากมีอยู่ 4 ลักษณะคือ
เพื่ออยากได้ส่วนต่างมา หมุนเวียน
เพื่อ ทำให้ภาระการผ่อนชำระน้อยลง และ ผ่อนชำระได้นานขึ้น
เพื่อยากได้ส่วนต่างด้วย และ อยากให้ผ่อนชำระน้อยลงด้วย
เพื่อต้องการเปลี่ยนลิสซิ่ง อาจจะด้วยความไม่พอใจส่วนตัว เกี่ยวกับ การติดตามทวงหนี้ หรือ การไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ
ทราบวัตถุประสงค์ของท่านแล้ว ก็มาดูว่า ท่านสามารถทำได้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่
วัตถุประสงค์ข้อ 1- รีไฟแนนซ์เพื่อ อยากได้ส่วนต่างต้องดูว่า ท่านมีหนี้ค้างชำระทั้งหมดเท่าไร (ตรวจสอบได้จากโทรสอบถามยอดปิดจริๆง จากลิสซิ่ง การเอายอดผ่อนต่อเดือนคูณกับ จำนวนเดือนที่เหลือจะไม่ใช่ยอดปิดจริง กรณีปิดจริงท่านจะได้รับการลดดอกเบี้ยให้อีก 50% ของดอกเบี้ยคงค้าง ) และ รถรุ่นของท่าน ไม่ได้อยู่ในรถที่ไม่สามารถรีได้ และ ลิสซิ่งให้ยอดสินเชื่อต่อรถของท่านเท่าไร ( ตรวจสอบได้จากราคากลางหรือดีลเลอร์ ) พร้อมเงื่อนไข ที่ ลิสซิงให้ เช่น รถตลาดให้ 90% รถไม่ใช่รถตลาด ให้กี่ 70% เมื่อทราบยอดจัดแล้ว ก็ดูว่า มันมีส่วนต่างระหว่างหนี้เดิม และ ยอดจัดใหม่หรือไม่ ถ้ามีส่วนต่าง ก่อนหักค่าใช้จ่าย ท่านก็สามารถยื่นรีไฟแนนซ์ใหม่ได้แล้ว
วัตถุประสงค์ข้อ 2- เพื่อทำให้การผ่อนชำระน้อยลง ท่านสามารถตรวจสอบได้โดยสอบถามยอดจัดใหม่ และอัตราค่าผ่อนชำระรายเดือนเปรียบเทียบกับอัตราผ่อนชำระรายเดือนของเก่า ท่านก็จะทราบแล้วว่าจะสามารถผ่อนชำระได้น้อยลงหรือไม่
รีไฟแนนซ์เพื่ออยากได้ส่วนต่างด้วย และ ผ่อนชำระน้อยลงด้วย ตรวจสอบได้ตามข้อ 1 และ ข้อ 2 ข้างต้น
รีไฟแนนซ์เพื่อต้องการเปลียนย้ายลิสซิ่ง ดูข้อ 1 และ ข้อ 2 ประกอบครับ
